เวียงกุมกาม

เวียงกุมกาม


2527 ร่องรอยโบราณคดีเวียงกุมกามเริ่มปรากฏ 
ร่องรอยเวียงกุมกามเมืองในตำนานปรากฏให้เห็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2527 โดยชาวบ้านขุดพบพระพิมพ์ดินเผาแบบต่างๆ จำนวนมากในวัดช้างค้ำ บริเวณสนามหญ้าหนาโรงเรียนวัดช้างค้ำ หน่วยศิลปากรที่ 4 เชียงใหม่ ต้องเข้า ระงับแล้วดำเนินการขุดแต่งทางโบราณคดีพบว่า บริเวณสนามหญ้าหน้าโรงเรียน เป็นวิหารใหญ่ (2528) จากนั้นได้ขุดแต่งแหล่งอื่นๆ ที่ใกล้เคียงเช่นโบราณ สถานวัดอีก้าง วัดปู่เปี้ย วัดน้อย (2529) วัดหัวหนอง วัดกู่ไม้ซ้ง วัดพระเจ้าองค์ดำ วัดพระธาตุขาว  (2532)(ดูรายงานการขุดแต่งศึกษาและบูรณะ โบราณสถานเวียงกุมกาม หน่วยศิลปากรที่ 4 เชียงใหม่ พ.ศ.2531-2532) และมีการสำรวจเรื่อยมาล่าสุด (2545)พบว่ามีร่องรอยวัดร้างในเขตกำแพงเวียงกุมกาม 25 แห่ง และนอกกำแพง 5 แห่ง (ไทยรัฐ 16 สค. 2545 )


2529 ร่องรอยประวัติศาสตร์เวียงกุมกาม
การขุดแต่งทางโบราณคดีพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งที่ เป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษรจำนวนมาก ซึ่งเป็นการขุดพบข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ถิ่น รัติกนก(2451-2538)เคยพบเศษจารึกวัดกานโถมเมื่อ พ.ศ. 2509-2511 2529 สรัสวดี อ๋องสกุล ได้เริ่มทำวิจัยเรื่องเวียงกุมกาม ทำให้ทราบว่าบริเวณนี้เคยเป็นชุมชนมาตั้งแต่สมัยหริภุญไชย ประมาณพุทธศตวรรษที่ 17 รุ่นเดียวกันกับชุมชนโบราณริมน้ำปิงแห่งอื่นเช่น เวียงมโน เวียงท่ากาน เวียงเถาะ โดยมีเศษจารึกภาษามอญโบราณเป็นหลักฐานครั้นพญามังรายเข้ายึดครองเมืองลำพูนได้แล้ว ก็มาตั้งเวียงกุมกามเป็นศูนย์กลางการปกครองก่อนคิดสร้างเมืองเชียงใหม่ในเวลาต่อมา จาการสำรวจร่องน้ำปิงห่างและปิงเก่าประกอบกับข้อมูลทางธรณีวิทยา ทำให้ทราบสาเหตุที่ทำให้เวียงกุมกามอยู่ใต้แผ่นดินคือการเปลี่ยนแปลงเส้นทางของสายน้ำปิงห่างโดยการทับถมของตะกอนทราบปรากกให้เห็นเด่นชัด(ดู สรัสวดี อ๋องสกุล เวียงกุมกาม:การศึกษาชุมชนโบราณในล้านนา เชียงใหม่ 2537) ศักราชสร้างเวียงกุมกาม 

ปีสร้างเวียงเชียงใหม่ชัดเจนเพราะมีจารึกวัดเชียงมั่น ระบุตรงกับ
 พ.ศ.1839 เวียงกุมกามสร้างก่อนเชียงใหม่ต้องมีอายุมากกว่า 700 ปี และไม่มีหลักฐานร่วมสมัยยืนยัน เอกสารที่เขียนสมัยราชวงค์มังรายเช่นชินกาลมาลีปกรณ์ ตำนานมูลศาสนา ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ล้วนเขียนหลังสมัยหลายปีจึงระบุปีที่สร้างเวียงกุมกามต่างกัน แต่กุญแจสำคัญคือเวียงกุมกามสร้างหลังพญามังราย ยึดเมืองหริภุญไชยได้แล้วปีที่พญามังราย ตีได้เมืองหริภุญไชยมาจาก แหล่ง ทำให้เกิดแหล่งความรู้ ชุดคือ 1.จากตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ คือ จุลศักราช 643(ตรงกับ พ.ศ. 1824) หลักฐานนี้ระบุว่าจากนั้นพญามังรายสร้างเมืองแม่แช่ว อยู่ ปี แล้วมาสร้างเวียงกุมกาม เมื่อจุลศักราช 648(ตรงกับ พ.ศ. 1835)(ดู ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับเชียงใหม่ 700 ปี ) 2.จากชิลกาลมาลีปกรณ์ซึ่งเขียนโดยพระรัตนปัญญาเถระ เมื่อ พ.ศ.2067 ระบุว่าพญามังรายตีได้เมืองลำพูนเมื่อจุลศักราช 654(ตรงกับ พ.ศ. 1835)โดยมีแผนยุธศาสตร์ทำสัญญาสามกษัตริย์ เมื่อ จุลศักราช 649(ตรงกับ พ.ศ.1830) หลักฐานนี้ระบุว่าเมื่อยึดลำพูนได้แล้วก็มาสราง"นครกุมกาม"ต่อมาจึงมาสร้างเมืองเชียงใหม่ (ดู ชิลกาลมาลีปกรณ์ : รตท.แสง มนวิทูร 2517) โดยไม่ได้กล่าวถึงการสร้างเมืองแช่ว หลังจากยึดเมืองลำพูนได้แล้วพญามังรายอยู่ลำพูนได้ ปี จึงสร้างเวียงแห่งใหม่ พญามังรายคงสร้าง เวียงกุมกามขึ้นเมื่อ พ.ศ.1837 ตำนานกล่าวว่าพญามังรายได้แผ่อำนาจ ไปทางพม่าได้กำลังคนเป็นช่างฝีมือกลับมาจำนวนมาก ร่องรอยฝีมือช่างพม่าจึงปรากฏ ชัดเจนที่เวียงกุมกามเช่นหัวบันใดขึ้นวิหาร (จุลทรรศน์ พยาฆรานนท์ กย. 2545)





เมื่อพญามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่ใน พ.ศ.1839 แล้ว เวียงกุมกามยังได้รับการบำรุงสืบมา ร่องรอยปูนปั้นเจดีย์วัดปู่เปี้ย ซึ่งเหมือนกับวัดเจ็ดยอดเป็นหลักฐานที่ทำให้ทราบว่ามีการทนุบำรุงถึงสมัยพญาเมืองแก้วเป็นอย่างน้อยทั้งนี้มีหลักฐานเอกสาร ระบุว่าพญาเมืองแก้วเสด็จไปเวียงกุมกามเมื่อ พ.ศ. 2062 (สรัสวดี อ๋องสกุลเวียงกุมกาม )
ปลายสมัยพญาเมืองแก้วใน พ.ศ. 2067 เกิดอุทกภัยใหญ่ในเมืองเชียงใหม่คนตายมาก(ตำนานเพื้นเมืองเชียงใหม่)แม้น ไม่ได้กล่าวถึงเวียงกุมกามซึ่งนำปิงท่วมเป็นประจำดังหลักฐานกล่าวว่า "ยามกลาววรรษาน้ำท่วมฉิบหายมากนัก" (พศาวดารภาคที่ 61)ก็กล่าวได้ว่าครั้งนั้นเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่เวียงกุมกามด้วย ปลายสมัยราชวงศ์มังรายคือสมัยท้าวแม่กุ (พ.ศ.2094-2101) แม่นำปิงนังใหลอยู่ตามแนวปิงห่างแสดงว่านำปิงยังไม่ เปลี่ยนสายทางเดิน แต่สมัยกองทัพธนบุรีที่ขึ้นมาขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงใหม่เมื่อ พ.ศ.2317มาพักทัพที่ท่าวังตาลริมน้ำปิง เส้นทางปัจจุบันแล้ว แสดงว่าแม่น้ำปิงเปลี่ยนทางเดินครั้งใหญ่ในช่วงพม่าปกครองเมืองเชียงใหม่ (พ.ศ. 2101-2317)โดยไม่พบเอกสารระบุปี หลังจากการขุดแต่งทางโบราณคดีตั้งแต่ 2527 พบแต่ตะกอนดิน ทรายและกรวดทับถมโบราณสถานหนาประมาณ1.50-2.30 เมตร (สรัสวดี อ๋องสกุล เวียงกุมกาม )

เวียงกุมกาม:เมืองประวัติศาสตร์ใต้ดิน
หลังจากกรมศิลปากรขุดแต่งโบราณคดีช่วงแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2527-2532 ร่องรอยวัดที่อยู่ใต้ดินก็เริ่มปรากฏให้เห็นทั้งวัดพบรากฐานค่อนข้างสมบุรณ์ ครั้น พ.ศ.2544 รัฐบาล พตท.ทักษิณ ชินวัตร จัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 58,000 ล้านบาทให้โครงการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองประวัติศาสตร์เวียงกุมกามจำนาน 39.4 ล้านบาท งบประมาณดังกล่าว ส่วนหนึ่งใช้ในการขุดแต่งทางโบราณคดีเพิ่มเติมอีก 3-4 แหล่ง พบวัดแห่งใหม่เพิ่มขึ้น



 1. พบซุ้มประตูโขงบริเวณริมแม่น้ำปิงห่าง ทางเดินปูด้วยอิฐเข้าวัด
 ยิ่งขุดยิ่ง พบร่องรอยถาวรวัตถุในวัดมากขึ้น 2.พบวิหารขนาดใหญ่ 2 วิหารคู่กันโดยเปิดหน้าดินไว้ เพียงวิหารเดียวส่วนอีวิหารหนึ่งยังคงอยู่ใต้ดิน 3. พบวิหารอยู่ริมถนนเข้าชุมชนเวียงกุมกาม ทำให้เห็นว่าถ้าหากทำการสำรวจเพิ่มขึ้น ทั้งหมดของเวียงกุมกามและมีการขุดแต่ง ทางโบราณคดีทุกแหล่งรวมกันรวมทั้ง ร่องรอยของปิงห่างเมืองประวัติศาสตร ใต้ดินก็จะปรากฏชัดมากขึ้นอีกและอย่างข่อนข้างสมบูรณ์